The Backbone of night : กระดูกสันหลังแห่งราตรี

ถ่ายทอดเรื่องราวและมุมมองของศิลปินที่มีต่ออวกาศวิทยาในฐานะผู้สังเกตการณ์ และผู้บันทึกเรื่องราวรอยต่อในปัจจุบันและและยุคสมัยที่กำลังจะมาถึง ที่มนุษย์มีโอกาสต้องขยายเขตแดนหรือย้ายถิ่นฐานขึ้นไปอยู่บนดวงดาวดวงใดดวงหนึ่งบนท้องฟ้านั้น

23 ตุลาคม - 21 พฤศจิกายน 2563

Art4C ชั้น 2

กรพัฒน์ คชภักดี

กดที่ภาพเพื่อดู VR Tour

ข้าพเจ้านั่งดื่มอยู่ริมระเบียง มีเพียงดวงจันทร์และดวงดาวที่คอยอยู่เคียงข้าง เฝ้าตระหนักเพียงแต่ว่าเรานั้นเป็นแค่สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ในจักรวาล ดำรงอยู่ในห้วงเวลาวัยเยาว์ของเอกภพเท่านั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะหาคำตอบในเรื่องต่างๆ ของจักรวาล แม้ใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ตาม อย่างไรก็ดี เรายังคงเดินหน้าค้นหาคำตอบ มองถึงความน่าจะเป็นต่างๆ แม้มันอาจดูไกลตัวเราในตอนนี้ แต่มันหมายถึงการส่ง

ไม้ต่อให้ลูกหลานเราในอนาคต ให้เขาได้มีโอกาสพายเรือข้ามมหาสมุทรแห่งดารา มนุษย์เรามีสัญชาตญาณการเดินทางมาตั้งแต่สมัยโบราณ และยังคงอยู่ในดีเอ็นเอของเราอย่างเต็มเปี่ยม

วิทยาศาสตร์ในอดีต ถูกมองเป็นขั้วตรงข้ามกับศาสนา แม้เป็นข้อมูลที่ถูกต้องพิสูจน์ได้ก็ตาม แต่เหล่า

นักวิทยาศาสตร์ผู้ไม่เคยยอมแพ้ ได้แผ้วถางสิ่งต่างๆ ให้คนรุ่นหลัง หากถามว่าประชากรโลกเมื่อ 400 ปีก่อนรู้สึกอย่างไรว่าโลกไม่ได้เป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล ก็คงไม่ได้มีใครใคร่สนใจมากนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านักวิทยาศาสตร์หากไม่มีข้อมูลเดิมอยู่ก่อนก็ยากที่จะคิดค้นสิ่งต่างๆ ต่อไปได้ และเราคงไม่ได้เห็นหลุมดำที่มนุษย์สร้างในภาพยนตร์ก่อนที่เราจะสามารถถ่ายภาพหลุมดำได้จริงๆ

ผลงานชุดนี้ ได้บอกเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเอกภพผ่านตามยุคสมัย การสำรวจความคิดของตนเองที่มี

ต่อวงการอวกาศของนานาชาติ และมุมมองในฐานะผู้ที่มีความสนใจต่อเรื่องที่ทุกคนมองว่ามันอาจไกลตัว

ไปเสียบ้างสำหรับคนไทยในเวลานี้ ข้าพเจ้าเชื่อว่าปัจจุบันประเทศไทยเหมือนเรือที่ใกล้จมเพราะรอยรั่ว

นับไม่ถ้วน หากคนในยุคปัจจุบันยังไม่เริ่มแผ้วถางหนทางให้กับคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม เรือลำที่

ใกล้จมนั้น ก็อาจไปไม่ถึงฝั่ง และอาจจมหายไปตลอดกาล

“If I have seen further, it is by standing on the shoulders of giants.” Sir Isaac Newton